David Ryan เป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับตำนาน ซึ่งได้เรียนรู้และทำงานร่วมกับ William O’Neil ผู้ก่อตั้ง Investor’s Business Daily และผู้เขียนหนังสือ “How to Make Money in Stocks” โดย Ryan เป็นผู้ชนะการแข่งขันการลงทุนของ U.S. Investing Championship หลายครั้ง และมีแนวทางการลงทุนที่เน้นการจัดการความเสี่ยงและการกำหนด Position Sizing อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับ Position Sizing (การกำหนดขนาดของสถานะลงทุน) ตามแนวทางของ David Ryan มีแนวคิดหลัก ๆ ดังนี้ :
1. เริ่มต้นด้วยขนาดที่จัดการความเสี่ยงได้
- Ryan แนะนำว่า นักลงทุนควรเริ่มต้นการซื้อหุ้นด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากการวิเคราะห์ผิดพลาด
- โดยทั่วไป เขาอาจเริ่มต้นด้วย 5% – 10% ของพอร์ตลงทุน ต่อหุ้นหนึ่งตัว
2. เพิ่มขนาดการลงทุนเมื่อหุ้นแสดงพฤติกรรมที่แข็งแกร่ง
- ถ้าหุ้นมีพฤติกรรมที่ดี (เช่น ราคาขยับขึ้นตามแนวโน้มที่คาดการณ์ไว้ และมีปริมาณการซื้อขายสูง) Ryan จะ เพิ่มขนาดการลงทุน ในจังหวะที่ราคาทะลุแนวต้านหรือดึงกลับมายืนบนแนวรับสำคัญ
- เขามักใช้วิธีการ “Pyramiding” หรือการเพิ่มตำแหน่งโดยทยอยซื้อเพิ่มในจุดที่ราคาขยับขึ้น ไม่ใช่ซื้อทั้งหมดในครั้งเดียว
- เช่น เขาอาจเพิ่ม 2-3 ครั้ง โดยแบ่งเป็น 50% – 30% – 20% ของขนาดการลงทุนทั้งหมด

3. จำกัดการขาดทุนให้น้อยที่สุด
- Ryan ให้ความสำคัญกับการ Cut Loss อย่างเคร่งครัด โดยมักตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 7%-8% จากราคาซื้อ (ตามแนวทางของ CAN SLIM)
- หากหุ้นร่วงลงถึงจุดนี้ จะต้อง ขายทันที เพื่อป้องกันความเสียหายจากการลงทุน
4. ใช้จุดเข้าที่แม่นยำ และวาง Stop Loss ให้ดี
- เขาเน้นการซื้อที่ “Pivot Point” หรือจุดเบรกเอาต์ที่แข็งแกร่ง เช่น Cup with Handle, Flat Base เป็นต้น
- หากซื้อที่จุดที่ดี Stop Loss สามารถตั้งแคบลงได้ และสามารถเพิ่มตำแหน่งได้อย่างมั่นใจ
5. ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง และกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
- Ryan เชื่อว่า นักลงทุนควรโฟกัสไปที่ หุ้นที่ดีที่สุดไม่กี่ตัว ดีกว่าการถือหุ้นจำนวนมาก
- ในตลาดกระทิง เขาอาจถือหุ้นประมาณ 4-6 ตัว เพื่อให้มีความหลากหลายแต่ยังควบคุมพอร์ตได้ดี
- การถือหุ้นที่แข็งแกร่งและขายหุ้นที่อ่อนแอ ช่วยให้พอร์ตเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปแนวทางการกำหนดขนาดการลงทุนแบบ David Ryan
✅ เริ่มต้นลงทุนด้วยขนาดที่เหมาะสม (5%-10% ของพอร์ต)
✅ ใช้วิธี Pyramiding เพื่อเพิ่มตำแหน่งอย่างมีระบบ
✅ ตัดขาดทุนที่ 7%-8% เพื่อป้องกันความเสียหาย
✅ ถือหุ้นที่แข็งแกร่งและกระจายพอร์ตอย่างเหมาะสม
แนวทางนี้ช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้ดีในระยะยาว โดยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง 🎯
